แบล็คแจ็ค (Black jack) เกมไพ่อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่แพ้บาคาร่า หรือโป๊กเกอร์เลย และหากใครที่ชอบดูหนังฮอลลีวูดก็อาจจะคุ้นเคยกับเกมไพ่ชนิดนี้ในฉากหนังหลายๆ เรื่อง แม้บางคนอาจเคยเห็นการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ หรือไพ่ Blackjack ในหนังหลายๆ เรื่องมาก่อน แต่ก็อาจไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วไพ่แล็คแจ็คมีวิธีเล่นยังไง บางคนอาจเข้าใจผิดว่ามันเล่นเหมือน บาคาร่าออนไลน์ แต่ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ พร้อมตัวเลือกที่น่าสนใจจากเว็บคาสิโนชั้นนำ
ประวัติเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค
ไพ่แบล็คแจ็คถูกพูดถึงครั้งแรกในนิยาของ Miguel de Cervantes นักเขียนชาวสเปน และยังเป็นนักพนันชื่อดังอีกด้วย โดยเขาบอกว่าแบล็คแจ็คมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 แล้ว แต่หลักฐานที่บอกว่าใครเป็นคนให้กำเนิดเกมไพ่ชนิดนี้ ปัจจุบันยังไม่มีการระบุได้อย่างแน่ชัด
Miguel de Cervantes อธิบายว่าแบล็คแจ็คมีชื่อเรียกแบบดั้งเดิมว่า “Twenty-One” ซึ่งมาจากจุดประสงค์ของเกมที่ต้องทำแต้มรวมของไพ่ให้เข้าใกล้ 21 มากที่สุด ซึ่งจากงานเขียนของนักเขียนชาวสเปนรายนี้ ปัจจุบันแบล็คแจ็คถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ามาสู่โลกออนไลน์ในเว็บคาสิโน หรือมีการจัดแข่งขันทั่วโลกซึ่งเรียกว่า “แบล็คแจ็คออนไลน์” นั่นเอง
แบล็คแจ็คออนไลน์ คือการเล่นแบล็คแจ็คอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งยังคงกิตกาแบบเดิมเอาไว้นั้นก็คือ การรวมแต้มของไพ่ให้ได้ 21 แต้ม หรือให้ได้แต้มใกล้เคียงกับ 21 มากที่สุด แต่อาจจะมีแบล็คแจ็คให้เราเลือกเล่นได้หลายประเภทมากขึ้น
ในเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ จะเป็นการถ่ายทอดสดการเล่นมาจากในบ่อนคาสิโนตามแต่ละแห่งของผู้ให้บริการ ซึ่งจุดที่ทำให้การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ได้เปรียบและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือความสะดวกที่เราสามารถเดิมพันที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีอินเตอร์เน็ต
กฎและกติกาการเล่นแบล็คแจ็คเบื้องต้น
จริงอยู่ว่าประเภทของเกมแบล็คแจ็คในปัจจุบันถูกแยกย่อยออกไปหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบล็คแจ็คสเปน, Switch Blackjack, Double Exposure Blackjack แต่ไม่ว่าจะเป็นแบล็คแจ็คประเภทไหน ก็ยังคงกฎการเล่นพื้นฐานที่เหมือนเดิมคือ ต้องทำแต้มให้ได้ 21 หรือเข้าใกล้ 21 มากที่สุด แต่ในเรื่องของรายละเอียดอาจมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งกฎและกติกาเบื้องต้นสำหรับการเล่นแบล็คแจ็คสามารถแยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
- เริ่มเกมโดยดีลเลอร์แจกไพ่ให้ผู้เล่นทุกคน โดยมีการแจกไพ่ดังนี้
- คนละ 2 ใบก่อน ไพ่ของผู้เล่นจะต้องวางหงายทั้ง 2 ใบ
- เจ้ามือจึงจะแจกให้ตัวเอง โดยไพ่ของเจ้ามือจะวางหงาย 1 ใบ คว่ำ 1 ใบ
- ผู้เล่นต้องวางเงินเดิมพัน และสามรถใช้คำสั่งต่างๆ เช่นเลือกจั่วไป หมอบ หรือ Stand ในการจั่วไพ่จะมีเงื่อนไขคือ ถ้าไพ่ในมือผู้เล่นน้อยกว่า 17 แต้มต้องจั่วไพ่เสมอ
- เมื่อทุกคนเล่นครบเจ้ามือเปิดไพ่ทั้งหมด หากแต้มของใครเข้าใกล้ หรือเท่ากับ 21 ก็ชนะเดิมพัน แต่ถ้าแต้มของเราเท่ากับเจ้ามือก็ถือว่าเสมอกัน
แต้มบนไพ่แบล็คแจ็ค
- ไพ่ตัวเลขมีค่าเท่ากับตัวเลขตามหน้าไพ่
- ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับไพ่ที่จับคู่
- ไพ่ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10
คำศัพท์แบล็คแจ็ค
สำหรับการเล่นแบล็คแจ็คโดยทั่วไปจะมีคำศัพท์ที่ใช้ในการเล่นเช่นกรณีที่เราหมอบ เรียกไพ่ หรือพอ และนี่คือคำศัพท์ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับไพ่แบล็คแจ็ค
- Blackjack: การได้แต้มเท่ากับ 21 จากการแจกไพ่ 2 ครั้งแรก
- HIT: การเรียกไพ่
- Stand: การพอ อาจมีชื่อเรียกอื่นๆ เล่น Stay, Stick หรือ Stand pat
- Double Down: การเพิ่มเดิมพันอีกเท่าตัว ใช้ได้สำหรับการเรียกไพ่ใบที่ 3 เท่านั้น
- Split: คือการแยกไพ่ออกเป็น 2 กอง ใช้ในกรณีที่ได้ไพ่คู่ในการแจกไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ
- Surrender: ยอมแพ้ใช้ได้เมื่อแจกไพ่ไม่เกิน 2 ใบ ได้รับเงินเดิมพันคืนครึ่งหนึ่ง
- Insurance: การเพิ่มเดิมพันอีกครึ่งหนึ่ง เมื่อเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น A ถ้าเจ้ามือได้ Blackjack เราจะได้เงินเดิมพันในส่วนนี้ไป
เทคนิคการเดิมพันเกมแบล็คแจ็ค
เกมแบล็คแจ็คอาจไม่ใช่เกมที่อาศัยแค่ดวงเท่านั้น แต่ประสบการณ์ในการเล่นเกมได้เงินจริงและเทคนิคก็ช่วยเพิ่มโอกาสชนะเดิมพันให้เราได้ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มโอกาสให้คุณเอาชนะเกมแบล็คแจ็คได้อย่างแน่นอน
- เทคนิคการจั่วไพ่
หลายๆคนอาจจะคิดว่าการการเรียกไพ่หรือการจั่วไพ่เป็นการวัดดวงหรือเป็นการสุ่มไปงั้นๆ เพื่อหวังแต้มสูงสุดหรือได้แต้มใกล้เคียง 21 แต้มที่สุด แต่ถ้าหากคุณลองสังเกตหน้าไพ่ตัวเองสักนิด การสุ่มที่ว่านี้ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการเพิ่มโอกาสชนะให้คุณได้
สำหรับการใช้เทคนิคการจั่วไพ่ เราขอแนะนำว่าคุณควรใช้เทคนิคนี้เมื่อได้แต้มไม่เกิน 16 แต้มเพราะหากมากกว่านี้ การเรียกไพ่จะทำให้คุณมีโอกาสสูงที่ได้ไพ่บอด แต่กลับกันหากคุณได้แต้มต่ำกว่าล่ะก็ ยังไงก็ต้องเรียกไพ่
- เทคนิคการนับไพ่
นี่เป็นเทคนิคที่มีประสิทะิภาพมากที่สุด และเราสามารถใช้ได้โดยไม่ผิดกฎการเล่นอย่างแน่นอน และยิ่งถ้าคุณเล่นเกมนี้ในระบบออนไลน์ คุณจะสามารถนับไพ่ได้ง่ายมากขึ้น โดยหลักการง่ายๆ คือในการเล่นเกมแบล็คแจ็คแต่ละครั้งจะใช้ไพ่ได้ประมาณ 5-6 สำรับ ซึ่งไพ่แต่ละใบที่เราได้จะมีค่าดังนี้
- ไพ่ 2, 3, 4, 5, 6 มีค่าเท่ากับ +1
- ไพ่ 7, 8, 9 มีค่าเท่ากับ 0
- ไพ่ 10, J, Q, K, A มีค่าเท่ากับ -1
ตัวอย่างการนับ: ถ้าคุณเปิดไพ่ใบแรกออกมาเป็นเลข 2 ให้นับ 1 เปิดไพ่ใบที่ 2 มาเป็นเลข 7 แบบนี้ไม่ต้องนับ เปิดไพ่ใบที่ 3 มาเป็นเลข 10 ให้นับเป็น -1 ถือว่าตอนนี้ไพ่มีค่าเท่ากับศูนย์
เมื่อใดก็ตามที่แต้มเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 แต้ม และหากคุณได้ไพ่ที่ 12 หรือ 13 แต้ม คุณควรหยุดเรียกไพ่ทันที
- เทคนิคการแทงแบบแยกไพ่
เทคนิคการแยกไพ่นั้นจะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะเจ้ามือได้ไม่ยาก การแยกกองไพ่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเราได้ไพ่คู่ เช่น 10 กับ10, J กับ J เป็นต้น
เทคนิคนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อคุณได้ไพ่ 2 ใบแรกที่แต้มรวมกันเท่ากับ 20 เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการชนะให้มากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะกั๊กไว้
สรุป
แบล็คแจ็คเป็นเกมไพ่ที่มีกฎและกติการการเล่นที่ไม่ซับซ้อน ทำให้มันได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และยิ่งเป็นแบล็คแจ็คออนไลน์ที่เข้าถึงง่ายด้วยแล้ว ก็ยังเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก และที่สำคัญ เกมแบล็คแจ็คไม่ได้เป็นแค่การเดิมพันที่อาศัยดวงเท่านั้น แต่เรายังสามารถปรับใช้กลยุทธ์ ทักษะต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสชนะเดิมพันได้อีกด้วย
คำถามที่พบได้บ่อย (FAQ)
แบล็คแจ็ออนไลน์เชื่อถือได้ไหม?
การเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์กับเว็บพนันออนไลน์ที่ผ่านการรับรอง สามารถเชื่อถือได้อย่างแน่นอน
มีสูตรหรือเทคนิคเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ไหม?
จริงๆ ควรเรียกว่าเทคนิคการเล่นมากกว่า เพราะโปรแกรมต่างๆ ที่ใช้ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎของเว็บพนัน และอาจทำให้คุณโดนแบนได้ แต่ถ้าคุณเรียนรู้เทคนิคการเล่นให้ดี ก็สามารถทำเงินจากแบล็คแจ็คออนไลน์ได้ไม่ยาก
แบล็คแจ็คออนไลน์ เดิมพันขั้นต่ำกี่บาท?
รีวิวคาสิโนออนไลน์ ที่เราคัดเลือกมาให้ส่วนใหญ่แล้วรองรับห้องคาสิโนสดที่ให้บริการแบล็คแจ็คเงินจริง ขั้นต่ำตั้งแต่ 10 บาท – 100 บาท ก็สามารถเข้ามาเล่นสนุกกับ blackjack online ได้เลย
เล่นแบล็คแจ็คกับคาสิโนไหนได้บ้าง?
เราได้รวบรวมผู้ให้บริการคาสิโนออนไลน์ที่น่าเชื่อถือมาให้คุณแล้ว รับประกันว่าทุกเว็บที่เราคัดเลือกมาให้มีห้อง blackjack ที่สนุก และลุ้นเงินรางวัลได้ง่ายๆ ติดตามดูตัวเลือกจากเราได้เลย